เมื่อหัวค่ำ มีเจ้าตั๊กแตนตัวเขียวปี๋ตัวนี้หลงเข้ามาเยี่ยมในบ้าน
แหม มันสีสวยงาม ก็เลยจับมันเป็นนายแบบ (หรือนางแบบหว่า) แถมเล่นหนังตะลุงให้ดูซะเลย
ถ่ายมันไม่กี่ช้อต เจ้าตั๊กแตนน้อย (ขอตั้งชื่อว่าเจ้าคริกกี้ -- เหมือนในเรื่องมู่หลาน) ก็เริ่มรำคาญกระโดดหยองแหยงเด้งไปโน่นนี่ไปตามเรื่อง เราก็เลิกสนใจมัน รู้ตัวอีกทีไ้ด้ยินแสงมันกระโดดปุลงไปในอ่างล้างจาน โอ้ยโหย ในนั้นมันมีอ่างน้ำยาล้างจานกับอ่างน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอยู่น่ะ เหวอออ เดี๋ยวมันซี้แหง …ไม่ได้ ๆ ต้องไปช่วยเอามันออกไปข้างนอกดีกว่า
พอเราไปชะโงกตรงอ่างเท่านั้นแหละ เจ้าคริกกี้ก็ตื่นเต้นเด้งหล่นลงไปในอ่างน้ำยาล้างจานจนได้
อารามตกใจ เราก็เลยจับมันขึ้นมา เปิดน้ำก้อกล้างมันซู่ใหญ่ นึกอะไรไม่ทัน มันก็ัยังดิ้นๆ ในที่สุดเราก็เอามันออกไปที่ต้นไม้ข้างนอกชานจนได้ พอถึงต้นไม้ มันก็เด้งดึ๋ง ดีดตัวจากเราไป นับว่าเสร็จภาระกิจ
พอเดินกลับเข้ามาในบ้าน เกิดฉุกใจอะไรก็ไม่รู้คิดว่าออกไปเช็คดูมันหน่อยดีกว่า ก็เลยคว้าไฟฉายออกไปส่องหาคริกกี้ … ปรากฏว่ามันนอนเค้เก้อยู่บนพื้นไม่ไหวติง … แง๊ๆๆๆ … ช่างเศร้าใจ ตั้งใจทำบุญกลับได้บาป … ก้มเก็บเจ้าคริกกี้ขึ้นมาด้วยความเซ็งสุดๆ เอามันกลับมาในบ้าน ลองเอานิ้วแหย่ๆ มันดู ก็รู้สึกว่าตีนมันเหมือนยังเหนียวๆ เกี่ยวๆ นิ้วอยู่นิดๆ ป่าวน้า … ไม่เลย นิ่งสนิท … เฮ้อ
เวรกรรม นี่เราหวังดีแท้ๆ กลายเป็นประสงค์ร้ายไปซะได้ ปล่อยให้มันอยู่ดีๆ ก็หมดเรื่องไปแล้วเนี้ยะ
ทำไงดีหว่า ขืนวางมันไว้เดี๋ยวกลายเป็นเหยื่อมดแน่ๆ เลย เอามันไว้ในชามดีมั้ย มดจะได้ไม่ตอมมัน ว่าแล้วก็เอามันหย่อนปุลงไปในชามเปล่า แล้่วก็หันไปทำอะไรต่อมิอะไรต่อไป แต่ในใจยังเศร้าไม่หาย รู้สึกว่าไม่ควรรนหาเรื่องเล้ยจริงๆ … แล้วจู่ๆ เราก็คิดยังไงไม่รู้ หันไปมองในชามอีก อ๊ะ ชามมันเปียกนี่นา ว่าแล้วก็หยิบคริกกี้ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเอาผ้ารองมันเพื่อเช็ดให้มันแห้ง รู้สึกว่าสงสารมันและคิดว่าตัวเองบ๊องเป็นที่สุด…
และแล้ว … มหัศจรรย์พันลึก คุณพระคุณเจ้าเจ้าขา พอคลี่ผ้าออกมาแทบไม่เชื่อสายตา
ตรงท้องมันขยับอ่ะ มันหายใจล่ะ พระเจ้าช่วยยยยยยย … ไม่ยักรู้ว่าแมลงหายใจท้องยวบขึ้นลงแบบคนด้วย จึ๋ยยยยยย มันไม่ตายเหรอเนี่ยะ โว้ววววว … ท้องมันเริ่มยวบขึ้นลงแรงขึ้นเรื่อยๆ เราลุ้นแบบเดียวกับที่เห็นเค้าช่วยคนจมน้ำในหนัง… ในที่สุด อย่างช้าๆ คริกกี้ก็เหมือนงัวเงีย ฟื้นขึ้นมา เราเฝ้าดูอยู่เงียบๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่เรากำลังมองสัตว์ที่สลบหรือช้อคไปแล้วค่อยๆ กลับฟื้น มันสุดยอดจริงๆ … ซักพัก คริกกี้สลัดปีกจนน้ำกระเด็นโดนหน้าเรา เหมือนกับหมาสลัดขน แล้วก็ค่อยๆ ขยับขาทั้งหกของมัน จนในที่สุดมันลุกขึ้น ค่อยๆ โงนเงน ก้าวไปทีละนิด สลับกับสลัดน้ำออกจากปีกมันอีก…การก้าวย่างของมันเหมือนกำลังมึนงงอยู่ แล้วค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ดีใจเหลือเกินที่ไม่ได้ทำบาป ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากคริกกี้เป็นตัวนำโชคและการเริ่มต้นใหม่มาให้อย่างที่คนญี่ปุ่น และคนจีนเชื่อกันจริงๆ เราก็ต้องแห้วเป็นแน่
พูดถึงตั๊กแตนก็นึกถึงตำนานกรีกที่เกี่ยวกับตั๊กแตนขึ้นมาได้
Francesco de Mura
Aurora, goddess of the morning and Tithonus, Prince of Troy
Aurora, goddess of the morning and Tithonus, Prince of Troy
ตำนานนี้กล่าวถึง เจ้าชายไทโธนัส (Tithonus) โอรสของกษัตริย์ลีโอมิดอน (Laomedon) แห่งกรุงทรอย ผู้เป็นคนรักของ อีออส (Eos : ชื่อกรีก) หรือ ออโรร่า (Aurora : ชื่อโรมัน) เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ บริวารที่ใกล้ชิดเทพอพอลโล่ (Apollo) มากที่สุด ทำหน้าที่เปิดประตูให้ราชรถทองคำของอพอลโลออกโคจรในยามรุ่งเช้า และไขแสงเงินแสงทองเป็นสัญญาณเบิกทางโคจรด้วย อีออสนั้นเป็นเทพธิดา ไม่แก่ ไม่ตาย แต่มนุษย์ธรรมดาอย่างไทโธนัสไม่เป็นเช่นนั้นนางเกรงว่าสักวันสามีจะต้องตายจาก จึงไปขอซุส (Zeus / Jupiter) ให้มอบชีวิตอมตะให้แก่ไทโธนัสแต่ปรากฏว่านางลืมขอความเป็นหนุ่มให้แก่เขาด้วย ไทโธนัสจึงมีชีวิตอยู่ไปชั่วนิรันดร์ ตำนานในยุคหลังเล่าว่า สุดท้ายไทโธนัสกลายร่างเป็นตั๊กแตน (บางตำราก็ว่าจั๊กจั่น) ไปในที่สุด ดังนั้นในบางแห่งตั๊กแตนจึงเป็นสัญญลักษณ์แห่งชีวิตที่ยืนยาวด้วย
นอกจากนี้ยังมีกลอนที่โด่งดังของลอร์ดอัลเฟรด เทนนิสันชื่อ Tithonus ที่มีวรรคขึ้นต้นว่า
The woods decay, the woods decay and fall,
The vapours weep their burthen to the ground,
Man comes and tills the field and lies beneath,
And after many a summer dies the swan.
ดังนั้นนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าความตั้งใจดีบางครั้งก็นำความเดือดร้อนมาให้ผู้ือื่นได้เช่นกัน
The vapours weep their burthen to the ground,
Man comes and tills the field and lies beneath,
And after many a summer dies the swan.
ดังนั้นนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าความตั้งใจดีบางครั้งก็นำความเดือดร้อนมาให้ผู้ือื่นได้เช่นกัน
ผมว่ามันจะดีใจกว่านี้มากครับพี่ต๋อย ถ้ามันตกลงไปในขวดเหล้า ไม่ใช่อ่างล้างจานอ่ะ ^ ^
ReplyDeleteอืมมม นั่นสิ ขวดเหล้ามันเกลี้ยงไปแล้วน่ะสิ อิอิอิ ตกไปก็ใสเจีย 5555
ReplyDeleteชอบฟังเรื่องราวของคนสมัยก่อนน่ะครับ มีอะไรสนุกๆเสมอเลย ^^
ReplyDelete555555555 เออเนอะ รับรองพอมันบินได้ อาจจะไปเข้าเธค...... เธคแสงไฟกระทะร้อน 5555
ReplyDeleteคืนนี้สะสมไว้อีกนะ พอได้เยอะๆ เอามาทอดกิน
ReplyDeleteปล.ภาพสุดท้านสวยจัง
อ่ะ หยวนก็ได้ เป็นคนสมัยก่อนก็ได้ว้า ... ใบหน้าชรา แต่นัยน์ตาเบบี้ดอลลลล์ นะ เฮอะ
ReplyDeleteอ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก หม่อมน้องมาโหดดดดดดดดดดดดดดดดด
ReplyDeleteแต่ละคน พุทธศาสนิกชนตัวอย่างกันทั้งน้านนนนนนนนนนนนนน
ReplyDeleteจะได้กรอบอร่อย มัน ๆ เลยใช่มั้ยครับ ( ตั๊กแตนแกล้มเหล้า )
ReplyDeleteสงสัยมันจะแกล้งตายเพราะกลัวพี่ต่อยจับไปถ่ายรูปอีก
ReplyDeleteสุดท้ายไหนนนน ภาพถ่ายของหญิงพี่ หรือภาพเขียน บอกมาซะดีๆ
ReplyDeleteถ่ายวัดมาเยอะแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย 5555
ReplyDeleteโอ้ยยยยยย 555555555 ขำๆกันทั้งน้านนนนน อิอิอิ
ReplyDeleteฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีสิทธิ์
ReplyDeleteมันคงบ่นในใจว่า "ยุ่งกะชั้นเหลือเกินวุ้ย"
คราวหน้าขอเห็ดครับพี่ต๋อย ช่วงนี้มัลติพลายกำลังฮิตถ่ายเห็ดกันยกใหญ่
ReplyDeleteไปส่องพระครับ อิอิ
ReplyDelete55555555555555555 เอ๊าาาา ไปแขวะเค้าอีก
ReplyDeleteพี่น่ะไฟแรง เดี๋ยวพรุ่งนี้จัดให้เลยชุดใหญ่ อิอิ
เห็ดปิ้งแกล้มว้อดก้า โอเคป่ะ ^^
^^ ใครเริ่มล่ะ^^
ReplyDeleteแล้วไป :)
ReplyDeleteพรุ่งนี้ก็ว่าจะไปล่าเห็ดเหมือนกันครับ แต่ยังคิดไม่ตกว่าจะไปไหนดี T T
ReplyDeleteเน้นส่องพระครับ ไม่เน้นชี อิอิ
ReplyDeleteน้าต๋อยครับ อิอิอิ
ReplyDeleteรอฟังเรื่องราวจ้าาา อยากรู้ว่าไอ้เจ้าเห็ดหน้าตาเหมือนหูคนนี่มันคือเห็ดอะไร มีเรื่องราวไงบ้างอ่ะ^^
ReplyDeleteวันนี้จะปั่นบล๊อกพี่ต๋อยให้เกินร้อยก่อนเลิกงานกลับบ้าน 5555
ReplyDeleteหูคน นึกไม่ออกครับพี่
ReplyDeleteแต่ถ้าหูหนูนะ อร่อย
ยิ่งถ้าเป็นหนูจ๋าด้วยแล้วนะ...ซู๊ดดดดดด
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดด
ReplyDeleteว่าจะไปนอน ตกลงไม่นอนแล้วล่ะ จะคอยลุ้น ^^
ฮั่นแน่ ทริปส่องพระนี่เป็นการบังหน้าทริปไปกินหูหนูจ๋านี่เองล่ะ มิน่าาาาาาาาา ^^
ReplyDeleteส่วนใหญ่วัดในกรุงเทพจะมีหูหนูพันธุ์กิมจิหรือหมวยเกี๊ยะเยอะด้วยนะพี่....พันธุ์ฝรั่งมีประปราย
ReplyDeleteวันนี้จะเข้าคณะเชิญยิ้มซักวัน 55555
ReplyDelete5555555555555555555555 แล้วต่างจังหวัด มีพันธุ์ไร
ReplyDeleteเก่งที่สุด คนทางนี้น้ำหูน้ำตาไหลแล้ว
ReplyDeleteไม่นอนล่ะ ตาสว่างซะแล้วววว
อยุธยานี่ยังเป็นพันธุ์กิมจิอยู่แต่จะมีพันธุ์โตเกียวเพิ่มขึ้น ส่วนพันธุ์ฝรั่งก็มากเช่นกัน
ReplyDeleteมีพันธุ์โตเกียวที่ยุธยาด้วยเหรอเนี่ยะ
ReplyDeleteแล้วปักษ์ใต้อ่ะ มีหูหนูให้กินป่าว ^^
ปักษ์ใต้ไม่ค่อยได้ไปครับ คาดว่าพันธุ์พื้นเมืองจะเยอะสุด อิอิ
ReplyDelete555555555555 ฮิ้วววววว
ReplyDeleteอ้าววววว เรอะ ฮืมมมมมมมมมมมม
ReplyDeleteไม่ไหวแย้วววววว แฟนคลับทั้งหลาย
ReplyDeleteไปนอนละนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หน้าเหี่ยว ไม่สวย ^^
อ่านไปใจหายใจคว่ำตามไปด้วย ดีใจที่จบด้วยดีจ้ะ เรื่องเยี่ยมภาพประกอบยอด เด๋วจะส่งประกวด S.E.A. Write Award
ReplyDeleteภาพสวยมากๆครับ ^^
ReplyDeleteอิอิ ขอบคุณจ้าาา Zeus = Jupiter เน่าะ ^^
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ ^^
ReplyDeleteแม่น... กรีก = Zeus, โรมัน = Jupiter
ReplyDeleteอืม... จริง งั้นมันก็คงใช้สายตาเศร้าๆต่อว่าหนูต่อยว่า "ทีหลังอย่าซน ทีหลังอย่าซน"
ReplyDeleteฮ่าๆๆๆ หนูมันแม่จุ้นหลี สงสัยจะเลิกยากกกส์ อิอิอิ
ReplyDeleteGood story of a kind heart + very nice pictures. The คริกกี้'s face in the picture before the last seems like a curious look and tries to say thank you krub.
ReplyDeleteI hope so kha :)). Thanks.
ReplyDeleteขอบคุณที่เป็นห่วงจ้ะต่อย พี่ไม่เป็นไร แค่หวัดลงคอนิดหน่อย เด่วก้อหาย ต่อยดูแลสุขภาพเช่นกันนะ
ReplyDeleteโฟกัสที่ตาใสปิ๊งเรย ชอบๆ
ReplyDeleteเป็นปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมม
ReplyDeleteเริ่มต้นนิมิตหมายที่ดีสำหรับเช้านี้ สุขอีกแย้วววววววว ขอบคุณจ้าต่อย
จารอชมภาพสวยๆน้า มั่นจายยย สู้ๆ
ReplyDeleteถ่ายมือลูบท้องโตมาฝากพี่ใบนึงนะ อิอิอิ