Explorer of Life

Friday, August 26, 2011

คริกกี้รีเทอร์น

เมื่อคืนก่อนนอนเห็นคริกกี้เกาะอยู่เหนือเตาอบ ก็คิดว่าปล่อยมันตามสบายดีกว่าเพราะ Too much drama for one night เนอะ

เช้าขึ้นตื่นมาไม่เห็นคริกกี้แม้แต่เงา ไม่อยากจะิิคิดว่ามันตกเป็น “เหยื่อ” ไปซะแล้ว

เฮ้อ… ถึงยังไง เราก็ได้พยายามดีที่สุดแล้วใช่มั้ย…

ตอนเย็นกลับมาบ้านก็มองหา ด้วยความหวังอันริบรี่ว่ามันอาจจะรอดปากแมงมุม หรือมดมาแล้วอาจจะเดินด๊อกแด๊กอยู่ในบ้านก็ได้ คงจะเศร้าน่าดูถ้าหากว่ามันรอดมาได้จริงๆ แต่ดันโดนเราเหยียบจนแบนแต๊ดแต๋แทน … อยากจะกู่เรียกมันดังๆ แต่ก็ลืมไปว่ามันไม่ใช่หมาแมวซักกะหน่อย

“โอเค ไม่เห็นเงา แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่เราเหยียบ ก็ยังดี”

ซักพัก เรากำลังนั่งเพลินๆ หางตาก็เหลือบไปเห็นอะไรไหวๆ ปรากฏว่าจู่ๆ คริกกี้โผล่มาจากหลังคอมพ์พิวเตอร์ เดินงกๆ เงิ่นไปบนโต๊ะ กริ๊ดดด มันยังไม่ตายยยย เย้!!!!!!  อย่างน้อยก็โล่งใจไปหนึ่งเปราะ ตกลง เธอรอด เยี่ยม … แต่แล้วแค่วินาทีเดียวก็ต้องหนักใจในเปราะที่สอง

“มันจะไปรอดเร้อเนี่ยะ ดูท่าทางเหมือนคนฟื้นไข้ เดินกระหยองกระแหยง มีหวังอยู่ข้างนอก นกจับกินตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวแรกแหงๆ … งั้นลองปล่อยมันอยู่ในบ้านไปก่อนละกัน ถือว่าอยู่ในระยะพักฟื้น ^^” เราคิดพลางถอนใจใหญ่

ต่างคนต่างอยู่ไปซักพัก เจ้าคริกกี้ก็เดินง่อนแง่นไปใต้โต๊ะ และไหนต่อไหนหารู้ได้ไม่

“เออ ตั้งแต่มันฟื้นมานี่ยังไม่เห็นมันบินเลย มันจะบินได้อีกมั้ยเนี่ยะ”

คิดยังไม่ทันจบดี คริกกี้เหมือนนั่งอยู่ในใจบินมาจากไหนไม่รู้ หล่นป้อกลงบนพื้นครัว

“เฮ้! บินได้หน่อยนึงแล้วนี่หว่า เยี่ยมๆๆ – Good to have you back, Buddy :) ”  พยาบาลเริ่มใจชื้น

“นี่มันคงหิวเหมือนกันนะเนี่ยะ หาไรให้กินดีหว่า” ไม่เคยทำอาหารแมลงจึงสุดจะรู้ได้ว่า ผักหญ้าแบบไหนจะถูกปากว่าแล้วก็ไปหักกิ่งเล็กๆ ของต้นพลัมมาเขี่ยคริกกี้ขึ้นมา

“อืม สงสัยต้องปูเตียงให้คริกกี้ดีก่า อ่างสลัดใสๆ นี่ท่าทางจะไม่เลว”

Photobucket

พอลงไปในอ่าง คริกกี้ก็เริ่มหง่ำๆๆ ใบไม้ใกล้ตัวนิดหน่อย แต่ก็เบื่อ ฉับพลันก็มองเห็นดอกนัสเตอร์เชี่ยมที่ย้อยอยู่ใกล้ๆ โอ้วววว เธอโน้มลงมาหม่ำใหญ่เลยจ้า … ไม่นึกเล้ยว่าเธอชอบส้มตำ อิอิ

Photobucket

ไหนเคยอ่านว่าเจ้าดอกนี่ (คนก็กินได้) สัตว์ไม่ชอบ โดยเฉพาะกวาง เพราะมันเปรี้ยวๆ
อืมมม เจ๋งๆๆๆ มองดูเจ้าคริกกี้ หม่ำ หม่ำ แล้วรู้สึกไม่เชื่อสายตาว่า ดูไปดูมากิริยาท่าทางมันจะเหมือนสัตว์ใหญ่ๆ ทั่วไป จนแทบจะลืมไปเลยว่ามันเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆนะเนี่ยะ

ดังนั้น นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ชีวิต ไม่ว่าจะมีขนาดเพียงน้อยนิดแค่ไหน ก็ทรงคุณค่า น่าพิศวงเสมอจริงๆ

“การช่วยเหลือ”แก่ใคร หรือ อะไร แม้จะดูว่าเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย และทำไปก็ไม่มีประโยชน์ และบางครั้งท้อแท้เพราะมีคน หรือสถานการณ์คอยบั่นทอนกำลังใจ ดังนั้นไม่ทำซะเลยดีกว่า เพราะมันคงช่วยให้โลกดีขึ้นไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าแค่การทำให้โลกของใครดีขึ้นเพียงคนเดียว มันก็มีความหมายกับคนๆ นั้น มากที่สุดในโลก เหมือนนิทานเรื่องที่จะเล่านี้

หลายคนคงเคยได้ยินคล้ายๆ กันมาบ้างแล้ว แต่เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นจากฮาวายค่ะ


ปลาดาว (คะ โฮขุ ไค Ka Hôkû Kai  [kah HOH' KOO' kai])
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีผู้เฒ่า(คาพูน่าkupuna) ผู้หนึ่ง เช้าวันหนึ่งขณะที่เดินไปตามชายหาด ผู้เฒ่ามองเห็นคนกำลังร่ายรำอย่างงดงามอยู่ จึงคิดว่าใครกันนะ มาร่ายรำระบำฮูล่าเพื่อบูชาอรุณรุ่ง ณ ที่นี้
เมื่อเข้าไปใกล้ ปรากฏว่านางระบำนั้นกลับกลายเป็นเด็กน้อย (เคขิ Keiki) แต่แทนที่จะกำลังเต้นฮูล่า เด็กน้อยกำลังเก็บอะไรสักอย่างขว้างไปในทะเล

ผู้เฒ่าจึงถามเด็กน้อยว่า “เคขิ เจ้าทำอะไรหรือ”
เด็กน้อย ชะงักเล็กน้อย ก่อนเงยหน้าขึ้นตอบว่า "โยนปลาดาวลงไปในทะเลจ้ะ"
ด้วยความฉงน ผู้เฒ่าจึงถามต่อว่า “แล้วทำไมเจ้าต้องโยนมันลงไปด้วยเล่า”
เด็กน้อยยิ้มสดใส ก่อนจะชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับบอกว่า
“พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงขึ้นทุกที น้ำก็เริ่มจะลง ถ้าหนูไม่ได้โยนพวกมันลงไปในทะเล มันก็ต้องตายกันหมด"
ผู้เฒ่าได้ยินดังนั้นจึงพูดต่อว่า “ชายหาดทอดยาวเหลือเกินขนาดนี้ ปลาดาวก็มีมากมายก่ายกอง โยนลงไปไม่่กี่ตัว มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ หนู”
เด็กน้อยนิ่งฟังอย่างสุภาพ แต่ค่อยๆ ก้มลงหยิบปลาดาวตัวหนึ่งขึ้นมา แล้วขว้างมันไปให้ไกลพ้นจากเกลียวคลื่นที่จะซัดมันกลับเข้ามาสู่ฝั่ง แล้วหันมาบอกผู้เฒ่าว่า
“มันทำให้เจ้าตัวนี้ดีขึ้นนี่จ๊ะ”

Original Story: The Star Thrower by Loren Eiseley, 1979

8 comments:

  1. อ่านตอนแรกผมนึกว่านกซะอีก ตอนนี้พี่ต๋อยเลี้ยงตั๊กแตนไว้ด้วยหรือครับ ดูมันหิวโซจริงๆครับ

    ReplyDelete
  2. เหตุสืบเนื่องมาจากเมื่อวานค่ะคุณใหม่

    http://toichatpet.multiply.com/journal/item/140/140

    ReplyDelete
  3. หาาาาา ต่อยยังไม่กุ๊กกูนาาาา ไม่ถึงขนาดต้องคุยกะตั๊กแตนดอก อิอิอิ

    ReplyDelete
  4. เป็นตอนต่อเรื่องราวเจ้าคริกกี้ที่น่าปรพทับใจน้ำใจของคนเขียนจริงๆครับ

    ReplyDelete
  5. Very kind, very kind krub. - bless your heart. I like the last answer from Keiki to the question about what good is it to help just one krub. A great answer.

    ReplyDelete
  6. ความสุขของการให้ ยิ่งใหญ่เสมอครับ
    ปล..รอชิมตั้กแตนอยู่เหมือนเดิม

    ReplyDelete
  7. I'm glad you still find the story fresh and interesting. A good reminder indeed kha.

    ReplyDelete
  8. น่าประทับใจกับเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมาจากความรู้สึกของผู้ที่มีใจบุญ
    ภาพสวยมากจ้ะต่อย และชอบเรื่องราวของปลาดาวด้วย คนแก่อายเด็กไปเรย

    ReplyDelete