แม้ว่าเทศกาลคริสต์มาสจะกลายเป็นเทศกาลที่คนมักจะนึกถึงต้นสนใหญ่ที่ประดับประดาอย่างสวยงาม ซานตา คลอสพุงพลุ้ย และอะไรหลากหลายที่เหล่านักการตลาดอยากจะให้เรากระหายใคร่ได้มาจนเราชักจะเลือนๆ กับความหมายที่แท้จริงของเทศกาลนี้ไปเสียแล้ว
ลึกลงไป เวลานี้เป็นเวลาที่ชาวคริสต์ระลึกถึงการจุติของพระคริสต์เพื่อมาไถ่บาปให้แก่ชาวโลกผู้แน่นหนาไปด้วยบาปด้วยความรักที่มีต่อมนุษยชาติ ... หรืออีกนัยหนึ่งก็เป็นเวลาที่เราก็ควรระลึกถึงเพื่อน ญาติ พี่น้อง ผู้คนที่รักใคร่ ด้วยความซาบซึ้งว่าได้เกิดและเดินทางมาปฏิสัมพันธ์กันและสร้างความสุขให้แก่กันและกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ก็เลยขอส่งความสุขให้กับเพื่อนๆ ทุกคน และส่งความขอบคุณในมิตรภาพที่มีให้กันมาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา้ด้วยสาสน์จากหนังเรื่อง It's A Wonderful Life (1946) ของ Frank Capra* ที่ฉายในช่วงคริสต์มาสของทุกปีนะคะ
"ไม่ว่าในบางเวลา ชีิวิตจะดูย่ำแย่แค่ไหน แต่ก็ไม่มีอะไรแย่เกินไปหากเรามีเพื่อน"
ดังนั้นจึงขอกล่าวคำว่า Merry Christmas ให้แก่ทุกๆ คนด้วยความจริงใจค่ะ
Too often, somewhere between the festivity and frantic, last-minute shopping, we seem to forget the true meaning of Christmas. I don't mean in the strict, religious sense but the occasion's symbolic meaning of "peace and love to mankind"
Above all, it's time to think about our loved ones and friends -- about how lucky we are to have them in our life.
Thank you for your continued friendship and have a Merry Christmas.