Explorer of Life

Sunday, October 17, 2010

ฮูปเก่ามาเล่าเจี้ย - ฟ้าฮ่ามบ้านเฮา

อยากไข้เขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านเกิดของเฮาตี้คนเฒ่าคนแ่ก่เปิ้นเล่าไว้ฮื้อฟังมาเมินละก่บ่ได้โอกาสซักเตื้อ วันนี้ออกใจ๋ (ครึ้มใจ) เอาเหียน่อยเต้อะ ข้อมูลอะหยังก่บ่ค่อยจะมี แต่ว่าไปตามเอ็นต้วงม่อกม่วนก็แล้วกั๋นน่อ

ขอเล่าเป๋นกำเมือง เพราะฉะนั้นต้องขอสุมาคนตี้เข้ามาอ่านแล้วบ่เข้าใจ๋โตยเน่อเจ้า
ขณะเีดียวกั๋น ก็ต้องขอสุมาคนเมืองตี้ข้อมูลตี้ไปรวบรวมมาส่วนมากก่จะเป๋นกำไทย รวมๆ กั๋นแล้วมันก่ก๋ายเป๋นสำนวนแก๋งโฮะ (อะไรที่มารวมๆกันแบบไม่มีแบบแผน ไม่เป็นระเบียบ) ไปซักน่อย

เอาละ เข้าเรื่องกั๋นเต๊อะ...

น่าเศร้าใจ๋ตี้บ่ะเดี่ยวนี้ ฟ้าฮ่ามก๋ายเป็นตี้ตี้คนฮู้จักในฐานะตี้เป็นตี้กิ๋นตี้แอ่ว กิ๋นเหล้าฟังเพลงตะอั้น ทั้งๆตี้ บ้านเฮามีประวัิติสืบทอดเมินนาน  บ่ะเดี่ยวนี้พอเอ่ยจื้อฟ้าฮ่าม คนก็กึ้ดถึง ข้าวซอยเสมอใจ๋พ่อง ข้าวซอยลำดวนพ่อง ก็บ่มี๋อะหยังผิด แต่ความตี้เฮาเกิดฮั้น ใหญ่ฮั้น หันความเปลี่ยนแปลงไปในทางวัตถุ มันก่บ่ม่วนใจ๋เป็นธรรมดา (ก่ท่าจะเริ่มเฒ่าน่า่ก่ะเนาะ) เลยอยากไข้เก็บเกร็ดหน้อยๆ หนิดๆ เต้าตี้เซาะได้ กึ้ดได้มาลงไว้พ่อง

น่าแปลกใจ๋ตี้ข้อมูลเรื่องฟ้าฮ่ามเซาะยากขนาด ได้มาม่อกเอี้ยะ

------------------------------------------

ประวัติวัดฟ้าฮ่ามและบ้านฟ้าฮ่าม

"พระ เจ้าแสนเมืองมา" พระเจ้าลักขบุราคม พระองค์เป็นกษัตริย์ราชวงค์มังราย (เม็งราย) องค์ที่ 9 ทรงเป็นราชโอรสของพระเจ้ากือนาธรรมมิกราช กษัริย์องค์ที่ 8 เมื่อพระชมมายุได้ 15 พรรษา ในเวลานั้น พระเจ้าพรหม พระมาตุลาของพระองค์ ครองเมืองเชียงราย ได้ยกทัพมาตีนพบุรีศรีนครพิงค์(เชียงใหม่) เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ แต่ถูกทัพหลวงตีพ่าย จึงขอความช่วยเหลือจากพระอินทรราชากษัริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา แต่ก็ถูกตีพ่ายไปอีก

ต่อมาอีกไม่นาน พระเจ้าพรหมก็เสด็จมานพบุรีศรีนครพิงค์อีก เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนำพระพุทธสิพิงค์ (พระสิงห์) องค์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง (สร้างเมื่อ พ.ศ.700 ตามตำนาน "สิงหลปฏิมา" และ ชินกาลมาลีปกรณ์ สร้างขึ้นที่ประเทศศรีลังกา นัยหนึ่งว่าที่เมือง "อนุราชสิงหล" ประเทศเดียวกัน ครั้งเมื่อพ่อขุนรามคำแหงได้แต่งราชฑูตไปขอมาจากประเทศศรีลังกา) มาจากเมืองกำแพงเพชร ประมาณ พ.ศ.1933 (พงศาวดารโยนก) อัญเชิญไปไว้ที่เชียงราย ใน พ.ศ.1934 แล้วต่อมาได้นำมาถวายพระเจ้าแสนเมืองมา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยอัญเชิญจากเชียงรายทางลำน้ำกก แล้วมาขึ้นที่สบฝางกุสะนคร (เมืองฝาง) จากนั้นอัญเชิญขึ้นหลังช้างไปเชียงดาว เพื่อล่องเรือตามเส้นทางลำน้ำแม่ระมิงค์ (แม่ปิง) ครั้นถึงนพบุรีศรีนครพิงค์แล้ว อัญเชิญขึ้นที่ท่าวังสิงห์คำ เหนือท่าเจดีย์งามประมาณ 50 ว่า แต่เกิดเหตุการณ์ปาฏิหารย์ขององค์พระพุทธสิหิงค์ ปรากฏว่า ท้องฟ้าที่สว่างก็มืดลง และ มีพระรัศมีจากองค์พระพุทธสิหิงค์ พุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นลำแสงสีทองดั่งรุ้งกินน้ำ ยาวประมาณ 2,000 วา และ สิ้นสุดที่แห่งหนึ่ง ท้องฟ้าที่นั้นก็สว่าง ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

Photobucket

พระเจ้าแสนเมืองมาจึงโปรดเกล้า ให้สร้างอารามขึ้น ณ ที่ลำแสงสิ้นสุดนั้นว่า "อารามฟ้าฮ่าม" (วัดฟ้าฮ่าม) หมายถึงฟ้าสว่าง-อร่ามเรืองรอง สร้างเมื่อ พ.ศ.1934 (นับเป็นเวลาถึงปัจจุบัน พ.ศ.2552 วัดฟ้าฮ่ามมีอายุได้ 618 ปี)  จากนั้นนำพระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐาน ณ.วัดลีเชียงพระ (วัดพระสิงห์) ในปัจจุบัน

ที่มา: bloggang.com

Photobucket

เก๊าสะหลี (ต้นโพธิ์) ตี้เคยล่น (วิ่ง) เล่นมอบ (ซ่อนหา) ละก่จะต้องหันป้อน้อยป้อหนานเอาขี้เต้ามายาก๋องใหญ่ (เอาขี้เท้ามาทาหน้ากลองยาว) สะลวด (ตลอด) 

5 comments:

  1. อะหยังงาม วัดกาเจ้า

    ReplyDelete
  2. กาว่า คนเขียน งาม อิอิ

    ReplyDelete
  3. 31 ตุลาคมของทุกปี รัฐได้ประกาศให้เป็นวันผู้สูงอายุแล้วละครับ

    ReplyDelete
  4. วัดแต่ละวัดในภาคเหนือก็มีประวัติยาวนานน่าสนใจมากเลยครับ

    ReplyDelete